รู้จักกลยุทธ์พื้นฐานของการทำการตลาดออนไลน์

รู้จักกลยุทธ์พื้นฐานของการทำการตลาดออนไลน์ – ปัจจุบันกระแสการทำการตลาดออนไลน์นั้นมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายๆ ธุรกิจได้เริ่มมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับกระแส และการตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัว โดยการทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจังมากขึ้น ในปี 2020 จึงเป็นปีที่ธุรกิจต่างๆ แข่งขันกันด้านการตลาดออนไลน์อย่างจริงจังและเข้มข้นขึ้น ดั้งนั้น ธุรกิจที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing Strategy ที่พร้อมกว่า ย่อมได้เปรียบกว่า และสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดออนไลน์ได้มากกว่า รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ดีจากการทำการตลาดออนไลน์อย่างเห็นได้ชัด

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การทำการตลาดในสื่อออนไลน์ เช่น โฆษณา Facebook, โฆษณา Google, โฆษณา Youtube, โฆษณา Instagram มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยใช้วิธีต่างๆ ในการ โฆษณาเว็บไซต์ หรือ โฆษณาขายสินค้าที่จะนำสินค้าของเราไปเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้และเกิดความสนใจ จนกระทั่งเข้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราในที่สุด โดยการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) สามารถทำได้หลายช่องทาง ดังนี้

1. Search Engine Marketing

การตลาดบน Search Engine เป็นการทำให้สินค้าของเราติดอันดับการค้นหาในลำดับแรกๆ ซึ่งจะทำให้เราถูกค้นพบได้ง่ายและถูกคลิกได้บ่อยกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่างหรืออยู่ในหน้าถัดไป แบ่งออกเป็น SEO (การทำเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับของ Google) กับ PPC (การซื้อ Ads บน Google)

2. Email Marketing

การตลาดที่ทำผ่านอีเมล เพื่อส่งข่าวสาร โปรโมชั่นต่างๆ ถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เป็นการตลาดที่ต้นทุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับการตลาดในรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นการทำการตลาดที่ตรงกลุ่ม และสามารถเข้าถึงผู้รับภายในเวลาอันรวดเร็ว

3. Social Marketing 

การตลาดที่ทำผ่าน Social Network ต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Pinterest ฯลฯ ซึ่ง Social Marketing กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีสถิติการใช้งานสูงกว่าแหล่งออนไลน์ประเภทอื่น

เราไปดูกันว่ากลยุทธ์อะไรบ้างที่จะสามารถนำมาช่วยเพิ่มให้ผลลัพธ์ของการทำการตลาดออนไลน์นั้นดีมากขึ้นกว่าเดิม ไปดูกันเลย

ตลาดออนไลน์

รู้จักกลยุทธ์พื้นฐานของการทำการตลาดออนไลน์

1. การทำการตลาดออนไลน์แบบบูรณาการ (Integrated Digital Marketing)

การมีเครื่องมือการตลาดออนไลน์ Digital Marketing เยอะย่อมเป็นข้อได้เปรียบของธุรกิจ แต่หากธุรกิจใดสามารถบริหารจัดการเครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบมากยิ่งขึ้น ในประเทศไทย ผู้ทำธุรกิจหรือนักการตลาดออนไลน์จะเน้นการทำตลาดบนด้วยเครื่องมือหลักๆ เช่น Facebook, Google Ads ในปี 2020 Facebook, Google Ads ยังคงจำเป็นอยู่ แต่การใช้เครื่องมืออื่นๆ อย่าง SEO, Instagram, Twitter, YouTube, Linkedin, Pinterest, Line, Messenger ฯลฯ เพิ่มขึ้น ร่วมกับการใช้ Content ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละเครื่องมือมากขึ้น อาจช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีจากการทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing ได้ดียิ่งขึ้น

2. การวิเคราะห์ข้อมูลและผลลัพธ์ (Data and Conversion Analytics)

การวิเคราะห์ข้อมูลและผลลัพธ์จากการทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing เป็นพื้นฐานสำคัญอย่างมาก แต่ธุรกิจในประเทศไทยจำนวนมากยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ หลายธุรกิจยังคงทำการตลาดและโฆษณาออนไลน์โดยไม่มีการติดตามผล ยิ่งไปกว่านั้นบางธุรกิจยังไม่รู้เลยว่าจะติดตามผลจากการทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing อย่างไร ส่งผลให้การทำการตลาดและโฆษณาออนไลน์อาจจะไม่ตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ในปี 2020 การนำข้อมูลมาใช้ และการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่แม่นยำจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing ของแต่ละธุรกิจมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และอาจมีส่วนช่วยลดงบประมาณในการทำโฆษณาได้ด้วย

3. การใช้เว็บไซต์เป็นพื้นฐานในการทำการตลาดออนไลน์ (Web-Based Digital Marketing)

ฟังดูแล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับประเทศไทยต้องบอกว่าธุรกิจที่ทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing หรือขายของออนไลน์อยู่ส่วนใหญ่ไม่มีเว็บไซต์ของธุรกิจ หรือเว็บไซต์ของธุรกิจยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ เพื่อรับมือการแข่งขันด้านการตลาดออนไลน์ในปี 2020 นี้ การทำเว็บไซต์ของธุรกิจจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง หรือหากธุรกิจใดที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว ควรทำเว็บไซต์ธุรกิจให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพิ่มเนื้อหา (Content) ที่เป็นประโยชน์และดึงดูดผู้ชมมากขึ้น หรืออาจลองพิจารณาเพิ่มเว็บไซต์ธุรกิจก็ได้

4. การทำ Remarketing ตามพฤติกรรม (Behavioral Remarketing)

หลายท่านที่ทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing คงเคยรู้จักกับการทำ Remarketing มาแล้ว และหลายท่านอาจจะเคยทำโฆษณาและการตลาดออนไลน์แบบ Remarketing อยู่ แต่ในปีนี้ เพื่อให้การทำ Remarketing ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีเว็บไซต์ การทำโฆษณา Remarketing Ad. ตามพฤติกรรม (Behavioral Remarketing) ที่มีความหลากหลายมากขึ้นนอกเหนือจากการดูหน้าเว็บเพียงอย่างเดียว เช่น การดูวีดีโอ การเลื่อนดูหน้าจอ การดูภาพหรือข้อความ การจับเวลาที่ผู้ชมอยู่บนเว็บไซต์ การคลิกปุ่มเพิ่มเพื่อน Add Line คลิกปุ่ม Facebook Inbox การเพิ่มตะกร้าสินค้า ฯลฯ

รู้จักกลยุทธ์พื้นฐานของการทำการตลาดออนไลน์

กลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)

จะแยกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ที่ใช้กัน

1. Inbound Marketing การตลาดแบบสร้างแรงดึงดูด

เป็นการทำตลาดออนไลน์โดยการสร้างคอนเทนต์ (Content) ที่มีคุณภาพ สร้างประโยชน์ เพื่อส่งไปยังลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการทำการตลาดออนไลน์ด้วย ให้พวกเขารับรู้และรู้สึกว่าได้รับคุณค่าจากคอนเทนต์ของเรา ซึ่งคอนเทนต์ที่ดี จะช่วยสร้างแรงดึงดูดทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหันมาสนใจสินค้าหรือบริการได้และกลับเข้ามาหาเราเองในที่สุด

2. Outbound Marketing การตลาดออนไลน์แบบผลักดัน

การทำการตลาดโดยการผลักแบรนด์ไปให้ถึงผู้คนหรือกลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ โดยส่วนใหญ่การทำการตลาดรูปแบบนี้จะเน้นการนำเสนอแบรนด์ สิ่งที่แบรนด์ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเน้นเรื่องการโปรโมทให้เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากเข้าไว้เป็นสำคัญ โดยรูปแบบนี้จะเป็นเรื่องง่ายในยุคปัจจุบัน เนื่องจากโลกโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตของทุกคนเพิ่มขึ้น การใช้ Outbound Marketing จึงเหมาะกับการส่งข้อมูลออกไปเป็นวงกว้างโดยใช้เวลาที่น้อย

กลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์

การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีความสำคัญมากๆ เนื่องการสังคมยุคใหม่ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องแทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ ทำให้การตลาดออนไลน์นั้นสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง และตรงกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นสำหรับธุรกิจไหนที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ดี ย่อมใกล้เส้นชัยกว่าใครๆ แน่นอน

เรามีบทความน่าสนใจเกี่ยวกับ 8 วิธีเล่นเกมสล็อตให้ได้กำไร แล้วถ้าคุณชอบเล่นเกมที่ฝึกเรื่องการคิดและก็วิเคราะห์ล่ะก็อยากแนะนำ 10 เกมฝึกสมอง ที่เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี