ขึ้นชื่อว่า “ เหล้า ” หรือแอลกอฮอล์แล้ว คงไม่มีชนิดไหนที่ดีต่อสุขภาพของเราถึงขนาดที่แพทย์จะแนะนำให้ดื่มกันเป็นประจำเหมือนที่เราดื่มนมเป็นประจำกันอย่างแน่นอน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่จะกินเหล้า
และดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ ที่ไม่ทำร้าย ไม่ดีต่อสุขภาพมากจนเกินไป โดยได้คำแนะนำจาก นายแพทย์ปฏิพัทธ์ ดุรงค์พงศ์เกษม อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลสมิติเวล มาฝากกัน
ดื่มเหล้าแล้วตับไม่พัง ขึ้นอยู่กับปริมาณของแอลกอฮอล์ และชนิดที่ดื่ม
การดื่มแอลกอฮอล์ให้ถูกชนิด ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้เช่นกัน
- เบียร์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ค่อยมาก มีปริมาแอลกอฮอล์ราวๆ 5% หรือ 5 ดีกรี
- ไวน์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 10% หรือ 10 ดีกรี
- เหล้าชนิดต่างๆ มีแอลกอฮอล์ราวๆ 35-45% หรือ 35-45 ดีกรี
- วอดก้า บรั่นดี วิสกี้ เตกีล่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง คือราวๆ 40-50% หรือ 40-50 ดีกรี
ขนาดมาตรฐานที่เรามักเรียกกัน คือ 1 ดริ๊งค์ ( Drink ) หรือ 1 แก้วที่มีปริมาณเครื่องราว 10-14 กรัม หากทำการคำนวณ โดยนำปริมาณเครื่องดื่มหน่วยซีซี ( cc. ) x จำนวนดีกรี x 0.789 ( ความถ่วงจำเพาะของแอลกอฮอล์ ) จะได้ออกเป็นจำนวนแอลกอฮอล์ที่ดื่มเป็นหน่วยกรัม ต่อ 1 ดริ๊งค์ หรือ 1 แก้ว
เช่น ไวน์ 100 cc x 10 ดีกรี x 0.789 = 7.89 กรัม คือ จำนวนแอลกอฮฮล์ที่อื่มเข้าไปต่อ 1 แก้ว
เมื่อคำนวณคร่าวๆ ก็จะได้ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เราสามารถดื่มได้คร่าวๆ ดังนี้
เบียร์ = ครึ่งแก้วเบียร์ใหญ่ หรือ 3-4 กระป๋องเล็ก หรือไม่เกิน 200-300 cc ต่อวัน
ไวน์ = ก้นแก้วไวน์ หรือราวๆ 100 cc
เหล้า = 2 ใน 3 ของแก้วเป๊ก ( แก้วเหล้าเล็กๆ )
จำนวนนี้ถือเป็น 1 ดริ๊งค์ของแอลกอฮอล์ในแต่ละชนิด
ดื่มน้อย ดื่มมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?
- กรรมพันธุ์ ในแต่ละคนจะมีระบบเผาผลาญที่แตกต่างกัน และไม่เท่ากัน อาจมีคนที่คออ่อน และคนคอแข็ง ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของคนนั้นๆ
- หากแบ่งแยกตามเพศ ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้ว ในขณะที่ผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้ว สาเหตุที่ผู้หญิงดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยกว่า เพราะมีการกระจายไขมันต่อแอลกอฮอล์น้อยกว่า ทำให้แอลกอฮอล์ดูดซึมได้เร็วกว่า
- ช่วงเวลารับประทานอาหาร ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ขณะท้องว่าง อาจทำให้เมาเร็วได้ และทำร้ายตับได้มากกว่า
- โรคประจำตัว หากเป็นโรคตับอยู่แล้ว ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งเพิ่มอันตรายต่อโรคตับให้มากขึ้น
ดื่มแอลกอฮอล์เท่าไร เสี่ยงโรคตับ?
หากดื่มแอลกอฮอล์เกิน 4-5 ดริ๊งค์ต่อวันติดต่อกันเกิน 5 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคตับได้ โดยอาการเริ่มแรกอาจพบเพียงไขมันสะสมที่ตับ หากยังดื่มในปริมาณมากๆ เหมือนเดิมติดต่อกันถึง 10 ปี อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งได้
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็งของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย กรรมพันธุ์ ปริมาณที่ดื่ม และพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ อีกด้วย
ดื่มไม่เกินปริมาณที่แนะนำ มีประโยชน์อะไรบ้าง?
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- ลดคอเลสเตอรอล
- ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
- บางรายงานกล่าวว่า ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้ด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกชนิดของแอลกอฮอล์ที่ควรดื่มก็สำคัญ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ให้ประโยชน์มากที่สุด คือ
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกนที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ JAMA เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนจากการติดตามกลุ่มตัวอย่างเกือบ 20,000 คนและส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกันผิวขาวอายุเฉลี่ย 62 ปีเป็นเวลา 12 ปีได้พบว่า
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่น้อยถึงปานกลางนั้นอาจช่วยการทำงานของสมองโดยเฉพาะในเรื่องการใช้ความคิดและเหตุผลตลอดจนถึงเรื่องความจำได้ นักวิจัยให้คำจำกัดความของการดื่มในปริมาณน้อยและปานกลางว่าหมายถึงน้อยกว่าแปดดื่มต่อสัปดาห์สำหรับผู้หญิง และน้อยกว่า 15 ดื่มต่อสัปดาห์สำหรับผู้ชาย
- ไวน์แดง เพราะไวน์แดงมีสารบางชนิดที่มีผลต่อหลอดเลือดหัวใจที่ทำให้ไขมันดีเพิ่มขึ้น
- ไวน์ขาว
- เหล้าต่างๆ
- เบียร์ ให้ผลเสียต่อร่างกายมากกว่า เพราะเบียร์จะทำให้ไขมันในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ตัวบวม
ดื่มมากๆ ทีเดียว VS ดื่มน้อยๆ แต่ทุกวัน
มีรายงานว่า การดื่มมากๆ ทีเดียว ดื่มหนักในปริมาณมากๆ รวดเดียว เป็นการเพิ่มความเสี่ยงโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และตับอักเสบเฉียบพลันได้ ถ้ามีโรคประจำตัวอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ ก็อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคเหล่านั้นได้เช่นกัน ซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้
หากดื่มน้อยๆ แต่ทุกวัน และดื่มในปริมาณที่เกินกว่าที่แนะนำ จะทำให้ตับค่อยๆ แย่ลง เกิดพังผืด จนกลายเป็นตับแข็งในอนาคตได้
เคล็ดลับการดื่มแอลกอฮอล์ ให้เสี่ยงอันตรายน้อยที่สุด
- ดื่มตามปริมาณที่กำหนด
- ไม่จำเป็นต้องดื่มทุกวัน ถ้าอยากดื่มทุกวันต้องไม่ดื่มมากเกินไป
- เลือกดื่มไวน์ มากกว่าเหล้า และเบียร์ เพราะมีประโยชน์มากกว่า
- ควรรับประทานอาหารลงท้องก่อนดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะได้ไม่ถูกดูดซึมเร็วเกินไป
- ลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับได้เช่นกัน
อย่างที่กล่าวมาไว้ข้างต้น คือเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ นั้นไม่ได้มีผลดีต่อสุขภาพและร่างกายของมนุษย์เรา จึงขออยากเตือนว่า ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ ในรวดเดียว เพราะอาจทำให้คุณเป็นตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และตับอักเสบที่ทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ซึ่งสามารถพบได้บ่อยครั้งในคนไทย หากพบว่าตนเองเป็นคนที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วตัวแดงง่าย แสดงว่าร่างกายของคุณนั้นกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้ไม่เร็วมากพอ จึงไม่ควรดื่มซ้ำ เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้หากมีสัญญาณของพิษสุราเรื้อรัง และแอลกอฮอล์ลิซึ่ม เช่น ตื่นเช้ามาก็อยากดื่มแอลกอฮอล์เลย หรือถ้าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะหงุดหงิดงุ่นง่าย โมโหร้าย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและเข้ารับฟังคำแนะนำได้ทันที
ติดตามเรื่องราวต่างๆที่เราอยากจะนำเสนอได้ ที่นี่